
Welcome
To
Ko Sichang
Featured attractions in ko sichang.

บ่อน้ำพุด

ท่ายายทิม
บ่อน้ำผุด เป็นบ่อน้ำผุดจากใต้ดิน และเป้นแหล่งน้ำจืดที่ชาวบ้านหลายคนมาสูบน้ำไปใช้ เป็นความอัศจรรย์มากครับที่ได้เห็นแหล่งน้ำจืด น้ำใสปิ๊งแบบนี้บนเกาะกลางทะเลที่เป็นภูเขาหินซะด้วย น้ำที่เราเห็นในบ่อใสมากครับ คุณลุงพุ่ม ชาวเกาะสีชัง พาเรามาชม และบอกว่าชาวบ้านเขาก็ใช้น้ำที่นี่กัน น้ำไม่มีหมด สูบได้เรื่อยๆ มีด้วยกัน 2บ่อ น้ำใสมากๆ
แล้วเราก็เห็นรถกระบะสูบน้ำมาสูบน้ำจากที่นี่จริงๆ คุณลุงเล่าเสริมว่า มีเอาไปทำน้ำขวดขายด้วยนะ บ่อนึงกิน อีกอบ่อนึงเล่นได้ น้ำตื่นหน่อย อย่าไปลงบ่อผิดเข้าล่ะ
บ่อน้ำผุดอยู่ใกล้กับท่ายายทิม ตรงสุดถนนลาดยางพอดี แต่ก่อนตรงนี้เคยเป้นเหมืองมาก่อน

จุดชมวิวเขาน้อย
ท่ายายทิมอยู่ทางทิศใต้ของเกาะสีชัง โดยเส้นทางผ่านแหลมงู ถนนคอนกรีตอย่างดี เลยพระจุฑาธุชราชฐาน ขึ้นเขามา ขับตรงมาเรื่อยๆ มาข้างหลังเกาะก็จะเจอ เส้นทางนี้ รถสกายแล๊ปจะไม่มานะครับเพราะถนนช่วงสุดท้ายก่อนถึงท่ายายทิมนั้น ชันมาก ชันแบบลงเขา ขาขึ้นรถจะขึ้นไม่ไหว พวกเราใช้วิธีปั่นจักรยานไปกัน
ลักษณะเป็นหาดทรายเล็กๆ ไม่ยาวมากนัก มีทรายละเอียดขาว สวยงาม สามารถเล่น และว่ายน้ำได้ ท่ายายทิมช่วงเวลาน้ำลงจะสามารถเดินข้ามไปยังเกาะเล็กๆที่อยู่ตรงข้ามได้ เหมือนเป็นทะเลแหวก ทิวทัศน์สวยงามาก และเงียบสงบ แต่ให้ระวังหิน หรือหอยบาดเท้าเอาด้วยนะครับ

แหลมจักรพงษ์
จุดชมวิวเขาน้อย เป็นจุดชมวิวที่อยู่ในพระจุฑาธุชราชฐาน เดินขึ้นเขามาเรื่อยๆ ผ่านวัดอัษฎางค์นิมิตร ขึ้นไปอีก จากจุดนี้เราจะมองเห็นอ.ศรีราชาได้ชัดเจนทีเดียว ด่านล่างเป็นเขตพระราชฐานทั้งหมด ถ้าเดินเลยขึ้นไปหน่อยก็จะมีลานจอดรถบริเวณศูนย์บริกานักท่องเที่ยว อีกไม่ไกลครับ

หาดถ้ำพัง
แหลมจักรพงษ์เป็นแหลมที่อยู่ช่วงกลางของเกาะสีชังทางด้านทิศตะวันตก ถัดไปต่อจาก อ่าวอัษฎางค ์หรือ หาดถ้ำพัง ถนนสู่แหลมจักรพงษ์ เป็นถนนคอนกรีตอย่างดี คดเคี้ยวสวยงาม ที่ปลายแหลมจักรพงษ์ มีศาลาพักร้อนสร้างเป็นรูปกระโจมมุงกะเบื้อง กลมกลืนกับบรรกาศของเกาะได้เป็นอย่างดี
แหลมจักรพงษ์เป็นแหลมที่อยู่ช่วงกลางของเกาะสีชังทางด้านทิศตะวันตก ถัดไปต่อจาก อ่าวอัษฎางค ์หรือ หาดถ้ำพัง ถนนสู่แหลมจักรพงษ์ เป็นถนนคอนกรีตอย่างดี คดเคี้ยวสวยงาม ที่ปลายแหลมจักรพงษ์ มีศาลาพักร้อนสร้างเป็นรูปกระโจมมุงกะเบื้อง กลมกลืนกับบรรกาศของเกาะได้เป็นอย่างดี
แหลมจักรพงษ์ เป็นแหลมที่สวยงามอีกแห่ง เลยหาดถ้ำพัง ไปทางทิศตะวันตก ใช้เส้นทางเดียวกันกับเส้นทางไปหาดถ้ำพัง บริเวณริมฝั่ง ทะเลจะเป็นโขดหินขนาดใหญ่ สวยงาม เป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกน้ำที่สวยงามและมีจุดพักของ นักท่องเที่ยวปลูก
เหมาะแก่การตกปลา และพักผ่อนมีปลาทะเลหลากสายพันธุ์สวยงาม นอกจากนี้ยังเป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกน้ำได้สวยงาม
หาดถ้ำเขาพังตั้งอยู่ด้านตะวันตกของเกาะ เป็นชายหาดกว้าง สะอาดและสวยงาม มีทรายละเอียด น้ำใสสะอาดเหมาะแก่ การเล่นน้ำการเดินทางท่องเที่ยวบนเกาะ เนื่องจากสถานที่ท่องเที่ยวบนเกาะสีชังอยู่ห่างกันพอสมควร จะสะดวก มาก หากจะเช่ารถสามล้อเครื่องจากท่าเทียบเรือไปชมสถานที่ต่าง ๆ ใช้เวลาประมาณชั่วโมงเศษก็เที่ยวได้ทั่วเกาะ ค่าเช่ารถสามล้อเครื่อง คิดเป็นรอบ ๆ ละประมาณ 150-250 บาท ขึ้นอยู่กับระยะเวลาและระยะทาง

มณฑปรอยพระพุทธบาท
มณฑปรอยพระพุทธบาท อยู่สูงขึ้นไปบนยอดเขาเดียวกับศาลเจ้าพ่อเขาใหญ่ รัชกาลที่ 5 ทรงอัญเชิญมาประดิษฐานไว้ บนยอดเขาเป็น จุดชมทิวทัศน์ทะเลได้โดยรอบ

ช่องเขาขาด
ช่องเขาขาด ตั้งอยู่ด้านหลังของเกาะ หากนั่งเรือผ่านจะเห็นเป็นช่องเขา ในบริเวณมีสะพานสำหรับเดินชมทิวทัศน์สามารถ ชม พระอาทิตย์ตกได้สวยงาม มีหาดหินกลม ซึ่งเต็มไปด้วยหินกลม ๆ ขนาดต่าง ๆ มากมาย ในอดีตเคยเป็น ที่ตั้ง พลับพลาที่ประทับชมทิวทัศน์ของรัชกาลที่ 5
บริเวณนี้มีแหลมมหาวชิราวุธ เป็นจุดชมวิวที่สวยมาก มีลักษณะคล้ายกับแหลมพรมเทพ แต่เล็กกว่าเป็นแหลมที่สวยงามอีกแห่งหนึ่งของเกาะสีชัง มีสะพาน ที่ทอดยาวยื่นออกไปยังแหลม นักท่องเที่ยวนิยมไปตกปลาที่นั่นกันมากเพราะเป็นโขดหินมากมายเป็นแหล่งที่ อยู่ อาศัยของฝูงปลาหลายชนิด และสวยงามเป็นอย่างมาก แหลมสลิดยังเ็ป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกในยามเย็นอีก ด้วยในฤดูหนาวพระอาทิตย์ตกน้ำจะมีดวงใหญ่โตเป็นพิเศษ

ศาลเจ้าพ่อเขาใหญ่
ศาลเจ้าพ่อเขาใหญ่ ตั้งอยู่บนเขาห่างจากท่าเรือเทววงศ์ไปทางด้านเหนือของเกาะ เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวเกาะสีชังให้ความเคารพนับถือ ลักษณะเป็นถ้ำซึ่งดัดแปลงเป็น ศาสนสถาน ที่ผสมผสานด้วยสถาปัตยกรรมจีนและไทย จากบริเวณศาลมองเห็น ทิวทัศน์บ้านเรือนด้านหน้าเกาะได้ชัดเจน.

พระจุฑาธุชราชฐาน
พระจุฑาธุชราชฐาน เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญของเกาะสีชัง ห่างจากท่าเทววงศ์ลงมาทางใต้ของเกาะ สร้างในสมัยรัชกาลที่ 5 เพื่อเป็นท่ีี่ประทับในฤดูร้อน มีสิ่งก่อสร้างตั้งอยู่ตามชั้นเนินเขาที่สูง ต่ำลดหลั่นกันอย่างงดงามประกอบด้วยพระที่นั่ง 4 องค์ พระตำหนัก 14 หลัง ศาลา 1 หลัง มีสวนดอกไม้ สระ ธารน้ำ น้ำพุ ถ้ำและหน้าผา ภายในบริเวณมีสภาพ ภูมิทัศน์ที่งดงามตกแต่งตามลักษณะอุทยาน ในพระราชวังของประเทศตะวันตก ประกอบด้วยสิ่งก่อสร้างดังต่อไปนี้
เรือนเขียว
ในสมัยรัชกาลที่ 4 ทรงโปรดเสด็จมายังเกาะสีชังเป็นประจำโดยเรือกลไฟ และประทับแรมบนเรือ พระที่นั่งโดย มิได้สร้าง สร้างพลับพลาที่ประทับ แต่ในเวลานั้นก็มีเรือนไม้พักผ่อนริมทะเล ปลูกสร้างอยู่แล้วหลังหนึ่ง คือ "เรือนเขียว" ปัจจุบันยังอยู่และมีสภาพที่เรียบร้อยสมบูรณ์
เรือนผ่องศรี
จัดแสดงนิทรรศการพระราชประวัติ และประวัติบุคคลผู้ที่มีบทบาทสำคัญกับเกาะสีชังในอดีต
พระที่นั่งมันธาตุรัตนโรจน์
พระที่นั่งมันธาตุรัตนโรจน์ พระที่นั่งองค์นี้ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ท่านทรงโปรดเกล้าวาง ศิลาฤกษ์ ใน ปี พ.ศ.2435 แต่ขณะที่กำลังก่อสร้างพระที่นั่งองค์นี้ ได้เกิดเหตุความไม่สงบ ร.ศ.112 ขึ้น ต่อมา พระองค์ท่านได้มีพระ ์พระราชองค์การรับสั่งให้รื้อพระที่นั่งองค์นี้ แล้วมาสร้างในพระราชวังสวนดุสิต กรุงเทพ มหานคร และพระราชทานนาม ใหม่ว่า พระที่นั่งวิมานเมฆ ซึ่งองค์พระที่นั่งเป็นเรือนไม้สักทองที่ใหญ่ที่สุดในโลก การก่อสร้างนั้นไม่ได้ใช้ตะปูเข้าเรือน เรือนเลยสักตัว เป็นการสร้างเรือนไม้ด้วยช่างไม้หลวงฝีมือชั้นครู ภายใน พระจุฑาธุชราชสถานปัจจุบันเหลือเพียงฐาน ของอาคารซึ่งเป็นคานคอดินที่เหลือให้พวกเรา ได้จินตนาการว่า องค์พระที่นั่งวิมานเมฆ ได้เคยก่อสร้างเป็นอาคารริมทะเลที่สวยงามอย่างมาก
เรือนวัฒนา
จัดแสดงนิทรรศการที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์สำคัญ ในเกาะสีชังในสมัยรัชกาลที่ 5
สะพานอัษฎางค์
อยู่ในบริเวณพระตำหนัก เป็นสะพานที่รัชกาลที่ 5 ท่านทรงใช้เป็นท่าขื้นเทียบเรือหลังจากที่เสด็จประพาสฝรั่งเศส ที่เห็นนี่คือบูรณะใหม่ทั้งหมดแล้ว แต่ว่ายังคงรูปแบบสภาพเดิมทั้งหมด
อัษฎางค์ประภาคาร
อยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งมีศิลาอยู่ใต้น้ำอยู่ตรงปากช่องทางเรือ ทั้งนี้เพื่อเป็นที่ สังเกต แก่เรือที่จะเดินเข้าออก
พระเจดีย์อุโบสถ วัดอัษฎางค์นิมิตร
เป็นพระอุโบสถที่อยู่ในเขตพระราชวัง มีลักษณะแตกต่างจากที่อื่น คือ พระอุโบสถอยู่ใต้เจดีย์ทรงกลมแบบ ลังกาตัวพระ อุโบสถสร้างแบบสถาปัตยกรรมแบบโกธิค บริเวณพระเจดีย์อุโบสถยังมีต้นศรีมหาโพธิ์ ซึ่งนำหน่อ มาจากพุทธคยา ประเทศอินเดียปลูกไว้ด้วย พระเจดีย์อุโบสถนี้ที่ตั้งอยู่บนเขา ณ ตำแหน่งที่สูงมองเห็นได้ชัด และจากองค์พระเจดีย์ สามารถมองเห็นทัศนียภาพบริเวณพระราชฐานโดยรอบ รวมถึงภูมิทัศน์ทางทะเลที่สวย
ที่มา : http://kosichang.sadoodta.com/